ยาซุดะ คัน

พาเที่ยวชมผลงานของยาซุดะ คัน ศิลปินนักแกะสลักซึ่งเกิดที่ฮอกไกโด

ยาซุดะ คันเป็นศิลปินที่เกิดและโตที่บิไบชิ ฮอกไกโด ปัจจุบันยังคงผลิตผลงานอยู่ที่ทางตอนเหนือของอิตาลี สร้างผลงานที่มี
จุดเด่นอยู่ตรงที่ใช้หินอ่อนและบรอนซ์ ในการสร้างเส้นโค้งที่ดูราวกับมีชีวิตชีวาซึ่งสามารถเข้ากันได้ดีกับบริเวณนั้น ไม่ว่าจะอยู่ใน
สภาพแวดล้อมใด และเป็นผลงานที่มีชื่อเลียงในระดับสากล สามารถเที่ยวชมผลงานซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากในตัวเมือง เช่น “เมียวมุ”
ผลงานการแกะสลักหินอ่อนสีขาวซึ่งวางไว้ที่กลางนิชิคอนคอร์สในอาคาร
สถานี JR ซัปโปโร นั้น มีชื่อเสียงในฐานะที่เป็น
จุดหมายในการนัดพบของชาวซัปโปโร “เทมปิ” ผลงานสามชิ้นที่วางไว้ที่สองฝั่งแม่น้ำในสวนสาธารณะโซเซคาวาซึ่งแบ่งเมืองออก
เป็นฝั่งตะวันออกและตะวันตก และยังมีที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งหากชมผลงานของยาซุดะ คัน ก็เท่ากับเที่ยวรอบ
ซัปโปโรแล้ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สวนสาธารณะอัลเท ปิเอซซ่า บิไบ ซึ่งอยู่ที่เมืองบิไบ ฮอกไกโด บ้านเกิดของยาซุดะ คันนั้น ปัจจุบันก็ยังคงมี
พัฒนาการ เป็นสวนประติมากรรมแกะสลักที่แฟนๆ ศิลปะต้องไปชม
หากเดินทางโดย JR หรือรถยนต์ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง ดังนั้น จึงแนะนำให้
เดินทางไปเยี่ยมชมผลงานของยาซุดะ คันศิลปินนักแกะสลักสักเล็กน้อย

สายสัมพันธ์ระหว่างอิซามุ โนะกุจิที่เกิดในอิตาลี และคัน ยาซุดะพบกันอีกครั้งในรูปแบบของสวนสาธารณะ｜ฉบับพิเศษ

เมียวมุ
ผลงานการแกะสลักหินอ่อนสีขาวซึ่งวางไว้ที่กลางนิชิคอนคอร์สในอาคารสถานี JR ซัปโปโร เป็นที่คุ้นเคยของชาวซัปโปโร ในฐานะ เป็นสถานที่นัดพบ

เซทัน
ผลงานที่แสดงถึงการแตกหน่อใหม่ ในสวนสาธารณะโซเซคาวา ได้ยินว่ามีความหมายถึงการที่ซัปโปโรเกิดมาจากสถานที่แห่งนี้ แฝงไว้อยู่

เซโบะ
สวนสาธารณะโซเซคาวา เป็นผลงานที่แสดงถึงไม้คํ้าจุนชีวิต วางไว้ที่กลางถนนในสวนสาธารณะ

เทมปิ
ผลงานที่วางไว้อยู่ทางฝั่งขวา และฝั่งซ้ายของแม่นํ้าโซเซ ในสวนสาธารณะโซเซคาวา รูปทรงที่มีส่วนโค้งมนอ่อนช้อยนั้น ช่วยทำให้จิตใจของผู้คนสงบ

อิชินคิ
ผลงานที่วางนิ่งสงบอยู่หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดฮอกไกโด เข้ากันได้อย่างกลมกลืนกับพื้นสนามหญ้าสีเขียว แม้จะเงียบสงบ แต่ให้ความรู้สึกเย็นๆ
ได้ยินว่ามีน้ำหนักถึง 14 ตัน

โซเกียว
วางไว้ที่ด้านหน้าของปากประตูทางเข้า ฮอลล์ใหญ่ Foyer ของฮอลล์ใหญ่ และที่ด้านนอกทางเข้าหลักของ Kitara ฮอลล์สำหรับจัดแสดงคอนเสิร์ตของซัปโปโร สามชิ้นสะท้อนเสียงซึ่งกันและกัน รวมกันเป็นผลงานชิ้นเดียว