เดินเที่ยวภายในมหาวิทยาลัยฮอกไกโด
ประตูทางเข้าของมหาวิทยาลัยฮอกไกโดนั้น เดินจากสถานีรถไฟซัปโปโรประมาณ 7 นาที อาคารสมัยเมจิตอนที่ยังเป็นโรงเรียนเกษตรซัปโปโร ปัจจุบันยังใช้เป็นอาคารเรียนอยู่ มหาวิทยาลัยที่เปิดให้ชาวฮอกไกโดเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจได้แห่งนี้ เดินรอบก็มีระยะทางถึง 6 กิโลเมตร
เส้นทางในการเดินเล่น
ทางออกด้านทิศตะวันตกของสถานีรถไฟซัปโปโร→ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 500 เมตร→ประตูด้านหน้า→สนามหญ้ากลาง,อนุสาวรีย์ Clark,หอประชุมที่ระลึกโคงะ→โคริวพลาซ่า “เอล์มโนะโมริ”→คณะเกษตร
→คณะวิทยาศาสตร์,พิพิธภัณฑ์→อนุสาวรีย์อินาโซ นิโทเบะ→แนวต้นไม้ Popular→ร้านอาหาร “เอล์ม”→โอโนะอิเคะ→แนวต้นแปะก๊วย→ถนนหลัก ไปทางเหนือ→คิตะ 18 โจมอน→ฟาร์มปศุสัตว์แห่งที่ 2 ของ
โรงเรียนเกษตรซัปโปโร→ถนนหลัก ไปทางใต้→โอโนะอิเคะ→แม่นํ้า
ซาคุชุโคโตนิ→สนามหญ้ากลาง→หอประชุม Clark
สนามหญ้ากลาง
สนามหญ้ากลาง
ประตูด้านหน้าตรงไปเรื่อยๆ จะพบกับสนามหญ้ากลาง สนามหญ้าสีเขียวอันร่มรื่นเย็นสบายด้วยเงาของ
แมกไม้ เป็นสถานที่ที่โยโกะ นางเอกในนิยายเรื่อง “เฮียวเทน” มานั่งอ่านหนังสือเสมอๆ
อนุสาวรีย์ Clark
อนุสาวรีย์ Clark ที่มีชื่อเสียงมาจากคำกล่าวที่ว่า “คนหนุ่มสาว ต้องมีความฝันอันยิ่งใหญ่” นั้น เป็นสถานที่ถ่ายรูปที่ได้รับความนิยม อาคารสีขาวแบบยุโรปที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้น เป็นอาคารแบบวิคตอเรียน อเมริกัน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1909 น่าเสียดายที่ปัจจุบันใช้เป็นห้องวิจัยจึงเข้าข้างในไม่ได้
เอล์มโนะโมริ
มีต้นเอล์ม (บาร์นิเล) หลายสิบต้นขึ้นอยู่ ต้นไม้ขนาดยักษ์ที่มีอายุกว่า 100 ปีนั้น ขึ้นเองตามธรรมชาติตั้งแต่ก่อนที่จะมีโรงเรียนเกษตรซัปโปโร บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโทโยฮิระนั้น มีน้ำใต้ดินอันอุดมสมบูรณ์ เหมาะอย่างยิ่งในการเจริญเติบโตของต้นเอล์ม
คณะเกษตร
เมื่อลอดผ่านสุมทุมพุ่มไม้อันหนาทึบแล้ว ก็จะมาพบกับอาคารรูปตัวอักษร ที่ให้ความรู้สึกหนักแน่น
พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยฮอกไกโด
พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยฮอกไกโด
เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์ ไม่ว่าจะไปกี่ครั้งก็ตาม มีวัตถุทางด้านวิทยาศาสตร์มากมาย จัดแสดงไว้ เช่น หิน แมลง ฟอสซิล แม้เด็ก ๆ ก็สามารถเพลิดเพลินได้ ไฮไลท์คือโครงกระดูกของนิปโปโนซอรัส (ไดโนเสาร์ญี่ปุ่น) และเดสมอสไตลัส เข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
อนุสาวรีย์อินาโซ นิโทเบะ
นิโทเบะ อินาโซเป็นนักศึกษารุ่นที่สองที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเกษตรซัปโปโร ก่อตั้งโรงเรียนภาคคํ่าโทโทโมะ เพื่อให้เด็ก ๆ ที่มีฐานะยากจนได้เรียนหนังสือ โดยมีนิโทเบะสองสามีภริยาคิงโงะ มิยาเบะ
และทาเกโอะ อาริชิมะเป็นผู้บริหาร
แนวต้นไม้ Popular
แนวต้นไม้ Popular
แนวต้นไม้ Popular อันมีชื่อเสียงของฮอกไกโดนั้น ถูกพายุลูกที่ 18 พัดจนล้มลงเกือบครึ่งหนึ่งใน
ปีค.ศ. 2004 หลังจากนั้นก็ได้รับความช่วยเหลือจากทั่วประเทศ นำต้นกล้ามาปลูกไว้ 70 ต้น ขณะนี้สามารถเดินชมได้ 80 เมตร
โอโนะอิเคะ
โอโนะอิเคะ ซึ่งอยู่เกือบกึ่งกลางของมหาวิทยาลัย เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวฮอกไกโดที่จะมาชม
นกเป็ดนํ้า หรือดอก กกบัว ข้างๆ จะมีร้านอาหาร “เอล์ม” นักท่องเที่ยวก็เข้าไปรับประทานได้ และ “โรงอาหารกลาง”
ที่อยู่ถัดไปนั้น เป็นโรงอาหารของนักศึกษา
แนวต้นแปะก๊วย
หากเดินไปทางเหนืออีก 50 เมตรจากโอโนะอิเคะ เมื่อหันไปทางตะวันออกจะมีแถวต้นแปะก๊วยอันสวยงาม เป็นส่วนที่มุ่งตรงไปยังประตูคิตะ 3 โจพอดี สองข้างทางของถนนที่มีความยาวประมาณ 380 เมตร
มีต้นแปะก๊วย 70 ต้น ปลูกเรียงรายไว้ สีทองยามฤดูใบไม้ร่วงนั้นงามมาก
ถนนหลักที่ทอดยาวจากเหนือจรดใต้
ถนนหลักที่ทอดยาวจากเหนือจรดใต้
เดินกลับมายังถนนหลักและขึ้นไปทางเหนือกัน ทางซ้ายเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ ทางขวาเป็น
คณะทันตแพทยศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์ นักศึกษาส่วนใหญ่จะใช้จักรยานในการเดินทางในมหาวิทยาลัย
เมื่อมาถึงประตูคิตะ 18 โจแล้ว จะพบต้นซิลเวอร์เบิร์ช และทุ่งหญ้าแผ่กระจายไปทั่วจนนึกว่าเป็นที่ราบสูง บริเวณนี้ก็เป็นสถานที่เดินเล่นของชาวซัปโปโรด้วย
โรงนาที่ 2 วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ซัปโปโร
ด้านฝั่งตรงข้ามของประตู 18 โจ โดยมีถนนอยู่ตรงกลางนั้น จะมีโมเดล บาร์น (อาคารตัวอย่างการทำ
ปศุสัตว์) และคอร์นบาร์น (อาคารเก็บธัญพืช) ของฟาร์มแห่งที่ 2 ของโรงเรียนเกษตรซัปโปโร ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เริ่มต้นจากการเป็นฟาร์มเกษตรตัวอย่าง โดยแนวความคิดในการบริหารการทำการเกษตรขนาดใหญ่ของศาสตราจารย์คลาร์ก เป็นอาคารทางด้านการเกษตรแบบยุโรปที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างเสร็จเมื่อปีค.ศ. 1877
เดินเรียบแม่นํ้าซาคุชุโคโตนิ
เอาละทีนี้เดินกับมาที่ถนนหลักแล้วไปทางใต้ถึงโอโนะอิเคะ จากโอโนะอิเคะข้ามถนนหลัก ฝั่งตรงข้ามจะมีแม่นํ้าซาคุชุโคโตนิไหลอยู่ เราจะเดินตามทางเรียบแม่นํ้าทางจะแคบลงเรื่อยๆ ก็ไม่ต้องสนใจ หากเดินเรียบแม่นํ้าไปเรื่อยๆ ก็จะไปออกสนามหญ้ากลางเมื่อสักครู่นี้
หอประชุม Clark
ข้างๆ สนามหญ้ากลางสุดทางหลักด้านใต้นั้น จะมีหอประชุม Clark ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นหอประชุมของ
นักศึกษาเมื่อปีค.ศ. 1959 โรงอาหารนั้นมีชื่อเสียงว่าทั้งถูกทั้งอร่อย พนักงานบริษัทที่อยู่ข้างเคียงก็มารับประทานด้วย ทำตัวเป็นนักศึกษาเข้าไปรับประทานก็น่าจะสนุกนะ