สวนสาธารณะนากาจิมะ

สวนสาธารณะในตัวเมืองที่ทำให้ได้สัมผัสใกล้ชิดกับฤดูกาลทั้งสี่ มีสาธารณูปโภคทางวัฒนธรรม และ
สิ่งก่อสร้างที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์กระจายอยู่โดยรอบ

สวนสาธารณะที่มีพืชพรรณอันอุดมสมบูรณ์ ณ ใจกลางเมืองติดกับย่านช้อปปิ้งที่คึกคักวุ่นวายเป็นสถานที่ที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการเดินเล่นพักผ่อนที่มีสิ่งที่น่าสนใจกระจายอยู่รอบๆ เช่น ริมทะเลสาบ ‘อายาเมะอิเคะ’ และ ‘ตึกโฮเฮ’ กับห้องสำหรับจัดพิธีชงชา ‘ฮัทโซอัน’ ซึ่งเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ ‘Kitara ฮอลล์สำหรับจัดงานแสดงดนตรีโดยเฉพาะ’ และ ‘หอดูดาว’เป็นต้น
เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองที่ผู้คนจะพาสุนัขมาเดินเล่น วิ่งจ็อกกิ้ง คับคั่งไปด้วยผู้คนในช่วงที่ถูกใช้เป็นเวทีของ ‘เทศกาลศาลเจ้าฮอกไกโด’ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นบทกลอนที่กล่าวขานถึงต้นฤดูร้อน ในฤดูหนาวเมื่อถูกปกคลุมด้วยหิมะจะกลายเป็นครอส
คันทรี่คอร์สสำหรับเล่นสกี โดยที่มีอุปกรณ์เล่นสกี (รองเท้า, สกี, ไม้คํ้า)
ทั้งชุดให้ยืมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย จึงสามารถสนุกสนานเพลิดเพลินกับการเล่นหิมะได้โดยไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงลานสกี

แผนที่แสดงสถานที่ที่น่าชมในสวนสาธารณะนากาจิมะ

หากมาที่สวนสาธารณะนากาจิมะ ก็ต้องสัมผัสกับอวกาศที่หอดูดาวของเมืองซัปโปโร !

หอดูดาวของเมืองซัปโปโรเป็นหอดูดาวที่เปิดให้ชมโดยทั่วไป เปิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1958 มีกล้องดูดาวที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 20 ซ.ม. ทุกเดือนจะเปิดให้ชมในตอนกลางคืน (โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวันศุกร์ ~ วันอาทิตย์ นอกจากจะได้ชมกลุ่มดาวจักรราศีแล้ว ยังได้ชมดวงจันทร์และดาวเคราะห์ด้วย จึงอยากให้ลองมาชม
※วันที่เปิดให้ชมในตอนกลางคืนนั้น กรุณาดูจากเว็บไซต์ที่เป็นทางการ

ฤดูใบไม้ผลิ

จะได้ชมดาวพฤหัสบดีซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาวกว่าโลกถึง 11 เท่า และจะได้เห็นลวดลายที่เป็นลักษณะเด่น หรือดวงจันทร์กาลิเลโอซึ่งเป็นดาวบริวาร 4 ดวง พบโดยกาลิเลโอ กาลิเลอิ (Io, Europa, Ganymede และGallisto)

ต้นฤดูร้อน

เป็นช่วงที่เหมาะอย่างยิ่งที่จะชมดาวเสาร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาดาวเคราะห์ สนุกสนานกับความงามอันลี้ลับของวงแหวนดาวเสาร์ที่เกิดจากการรวมตัวกันของก้อนน้ำแข็งจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน เมื่อดวงอาทิตย์ตก ดาวพฤหัสบดีและดาวศุกร์จะขึ้นเรียงกันทางด้านทิศตะวันตก สามารถดูดาวได้ถึงสามดวงในคืนเดียวก็ช่วงนี้แหละ

ฤดูร้อน

ดาวเคราะห์ที่เป็นตัวเอกก็ยังคงเป็นดาวเสาร์ ซึ่งจะเห็นอยู่บนท้องฟ้า ด้านทิศใต้หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้เคียงคู่กับดาว Antares สีแดงในกลุ่มดาวราศีแมงป่อง และหากกล่าวถึงฤดูร้อนก็ต้องฝนดาวตก ดูสนุกสนานดีที่มีผู้คนเป็นจำนวนมากมารวมกันที่เนินเขาที่อยู่ภายในหอดูดาว มองดูท้องฟ้าแล้วร้องตะโกนโหวกเหวก และอย่าลืมทายากันยุงด้วยหละ !

ฤดูใบไม้ร่วง

จะได้ชมดวงจันทร์และกลุ่มดาวในจักรราศีตามฤดูกาล ซึ่งจะเห็นลวดลายของพื้นผิวดวงจันทร์ และหลุมต่างๆ ได้อย่างชัดเจน การชมดวงจันทร์แบบสามมิติ คือเสน่ห์ในการชมดวงจันทร์ และการชมดาว γ ในราศี Andromeda “ดาวซ้อน” ที่หากมองด้วยตาเปล่าจะเห็นว่ามีเพียงดวงเดียว แต่หากมองด้วยกล้องดูดาวจะเห็นเป็นสองดวง ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นองค์ประกอบที่งดงามโดดเด่นก็เป็นความสนุกสนานอีกประการหนึ่ง

ฤดูหนาว

เป็นฤดูกาลที่จะเห็นดวงดาวบนท้องฟ้างดงามที่สุดในรอบหนึ่งปี นอกจากจะเห็นดวงจันทร์และจักรราศีในฤดูหนาวแล้ว ยังเห็นกระจุกดาว หรือ Nebula (กลุ่มก๊าซที่อยู่ท่ามกลางดวงดาว) ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของดาวได้ด้วย กล้องดูดาวจะรวมแสงได้มากกว่าตาเปล่าถึง 800 เท่า จึงสามารถสนุกสนานกับการชมประกายอันสุกสว่างของดาวต่างๆ เช่น Betelgeuse ในกลุ่มดาว Orion หนึ่งใน “สามเหลี่ยมใหญ่ในฤดูหนาว” ได้มากยิ่งขึ้น

※เป็นข้อมูล ณ ปี ค.ศ. 2016 ช่วงเวลาในการชมดาวเคราะห์จะค่อยๆ เปลี่ยนไปทุกปี กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ที่เป็นทางการ
เปิดให้ชมฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เวลา 10:00 น. ~ 12:00 น. และ 14:00 น. ~ 16:00 น. และสามารถชมดวงอาทิตย์ได้
วันหยุด : วันจันทร์, บ่ายวันอังคาร, วันรุ่งขึ้นถัดจากวันหยุดราชการ และวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่